แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โด้นั่งเก้าอี้สำรองเหมือนเดิมในเกมแมนฯดาร์บี้แมตช์

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้กลับไปนั่งเก้าอี้สำรองเหมือนเดิมเนื่องจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้หายจากบาดเจ็บและมีรายชื่อเป็นตัวจริงในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เอริค เทน ฮาก กุนซือของ ปีศาจแดง ได้ทำการปรับเปลี่ยนตำแหน่งตัวจริงหนึ่งตำแหน่งในเกมยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ ปีศาจแดง เอาชนะ เชอริฟฟ์ 2-0 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากจบเกมที่มอลโดวา  มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้รับบาดเจ็บจึงได้พักรักษาตัว ซึ่งตอนนี้กองหน้าวัย 24 ปี ได้กลับมาฟิตอย่างสมบูรณ์แล้วและ ดังนั้นนักเตะจึงมีรายชื่อเป็นตัวจริงในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้กลับไปนั่งเก้าอี้สำรองตามเดิม โดย 6 เกมในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้กองหน้าชาวชาวโปรตุเกสได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นคือเกมที่แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 และยังไม่สามารถทำประตูในเกมลีกได้ พึ่งมีแค่ประตูแรกเป็นการยิงจุดโทษในเกมยุโรป


โด้เตรียมสตาร์ทตัวจริงเกมดวลเรือ

สื่ออังกฤษ เดอะ เทเลกราฟ ออกมาเผยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เตรียมตัวออกสตาร์ทตัวจริงในเกมที่ต้องปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ในช่วงที่ผ่านมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้หลุดเป็นตัวสำรองของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยทาง เอริก เทน ฮาก กุนซือใหญ่ของทีม ได้ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงยืนเป็นกองหน้าแทน อย่างไรก็ตามตอนนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้รับบาดเจ็บและยังไม่มีผลสรุปที่แน่ชัดว่านักเตะจะหายและกลับมาฟิตทันเกมที่  เอติฮัด สเตเดี้ยม หรือไม่ และในขณะเดียวกันทาง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก็ยังมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บอยู่เช่นกัน ตามรายงานของสื่อทางอังกฤษระบุว่า ปีศาจแดง ไม่ได้มองในแง่ดีว่านักเตะทั้งสองคนจะฟิตทันและพร้อมลงตัวจริงในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ หรือไม่ ทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้มีโอกาสที่จะได้ออกสตาร์ทแทน โรนัลโด้ ได้ลงเล่นทั้ง 6 เกมในพรีเมียร์ลีกของซีซั่นนี้ แต่เป็นการลงตัวจริงเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในนั้ดที่ ปีศาจแดง แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา


สโคลส์ตั้งข้อสงสัยเรื่องการซื้อ-ขายของผี

พอล สโคลส์ อดีตกองกลางของ ปีศาจแดง ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องการซื้อ-ขายของ ปีศาจแดง ในช่วงที่ผ่านมาโดยมองว่า เอริก เทน ฮาก น่าจะยังไม่ได้นักแข้งที่ต้องการจริงๆ การ์ลอส กาเซมีโร่ ได้ย้ายมาอยู่กับ  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่ 60 ล้านปอนด์ และยังมีค่าเหนื่อยที่สูงถึง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยเป็นการย้ายทีมในเวลาที่รวดเร็วในขณะที่ เฟรงกี้ เดอ ย็อง ได้มีข่าวเชื่อมโยงถึง 3 เดือนกลับพลาดไป ซึ่ง สโคลส์ ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยว่า  เทน ฮาก ได้มีบทบาทในการซื้อขายมากน้อยแค่ไหน การ์ลอส กาเซมีโร่ ด้วยค่าตัวที่สูงขนาดนี้ ทั้งยังเป็นสัญญาระยะยาวและยังจบในเวลาที่รวดเร็ว พร้อมระบุว่าทางสโมสรควรหาคนมาดูแลในเรื่องนี้อย่างจริงจัง สโคลส์ ได้กล่าวในรายการ  โอเวอร์แล็ป ว่า “เจดอน ซานโช่ เป็นนักเตะที่ทาง ยูไนเต็ด ได้ทุ่มเงินในจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อตัวนักเตะมาร่วมทีม แต่เขากลับยังไม่ได้พิสูจน์ตัวในลีก” “แล้วเหตุใดทาง  เรอัล มาดริด ถึงยอมปล่อย วาราน ย้ายทีม? ถ้าพวกคุณได้ติดตามเขาในช่วงซีซั่นที่ผ่านมาเขาดูไม่ถูกต้องไปสะหมด ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันเป็นการเซ็นสัญญาที่ไม่ได้ดีอะไรเลย” “และไม่มีใครรับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งการย้ายทีมของ กาเซมีโร่ ในปีนี้ได้จบภายในสองวัน ผมเลยสงสัยว่ามันเป็นการเซ็นสัญญาของผู้จัดการทีมหรือเปล่า? ทั้งเงินจำนวนมหาศาลและสัญญาระยะยาว” “ผมคิดว่าทางสโมสรควรหาใครสักคนมารับผิดชอบในเรื่องการเสริมทีมอย่างจริงจัง เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะโดนตำหนิคือผู้จัดการทีม”


แอนโทนี่เผยถ้าสักที่ระลึกแชมป์ร่วมกับผีก็คงดี

แอนโทนี่ ปีกของ ปีศาจแดง นักเตะที่หลงใหลในการสักบนเรือนร่างเพื่อย้ำว่าชีวิตที่ผ่านเจออะไรมาบ้างและเจ้าตัวเผยว่ายังมีที่ว่างอีกเพียบเพื่อสักแชมป์ร่วมกับ ปีศาจแดง แอนโทนี่ เป็นนักเตะอีกคนที่หลงใหลเรื่องของรอยสักบนเรือนร่างซึ่งเป็นการได้รับอิทธิพลมาจากเทรนด์นักบอลสักลายเริ่มในทศวรรษ 2000 ซึ่งนักเตะวัย 22 ปีเผยว่าทุกรอยที่สักลงไปนั้นเป็นความตั้งใจของเขาเอง โดยเริ่มด้วยรูปราชสีห์ที่แขนขวานั้นได้ตั้งใจสักในพิธีกรีดเลือดสาบานเป็นพี่-น้องตลอดชาติกับพี่ชายซึ่งทั้งสองคนได้ลงเข็มในตำแหน่งเดียวกัน แอนโทนี่ ได้ออกมาเผยว่า “รูปนั้นผมได้สักกับพี่ชายเราได้นัดกันว่า เอาที่ตำแหน่งเดียวกันเลยนะ จะได้รู้ว่าอยู่บ้านเดียวกัน พี่ชายบอกผมแบบนี้” “โดยได้มีรูปโซ่ระย้าที่แขนซ้ายและรูปพญาปักษีที่คอรวมไปถึงทั้งท่อนแขนขวานั้นมีความสำคัญทั้งหมดเลย” “และในอนาคตผมก็อยากมีเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเอารูปอะไรดีอย่างล่าสุดพึ่งไปสักรูปเหรียญทองอลป.ที่ต้นขา” “ผมตั้งใจว่าจะมีเพิ่มอย่างแน่นอน แค่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นรูปอะไรแต่จะสักเพิ่มอีก 2-3 ตำแหน่ง” โดย แอนโทนี่ ได้รับเหรียญทองอลป.ที่ญี่ปุ่นด้วยการเอาชนะ สเปน 2-1 เมื่อผ่าน 120 นาที ในส่วนของพีเรียดทีมชาติได้ลงเป็นตัวสำรองถล่ม ตูนิเซีย 5-1 นาทีที่ 65


มาดริดจ่อดึงเดเคอาจากผีรียูเนี่ยนซัมเมอร์หน้า

แอตเลติโก มาดริด กำลังสนใจที่จะคว้าตัว ดาบิด เด เคอา นายด่านของ ปีศาจแดง หากนักเตะหลุดเข้าตลาดฟรีเอเยนต์ในช่วงซัมเมอร์หน้า สื่อข่าว 90 มินิท ได้ออกมารายงานว่า ผู้บริหารของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กำลังหนักใจเรื่องผลประกอบการที่ขาดทุนอย่างมหาศาลถึง 384 ล้านเหรียญ สหรัฐฯในช่วงซีซั่นที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องของค่าเหนื่อยของนักเตะซึ่งคนที่แพงอันดับต้นๆคือ  เด เคอา  ที่รับค่าเหนื่อยสูงถึง  3.5 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ ดั้งนั้นในซีซั่นนี้จึงถือเป็นการทดสอบความสำคัญของนายด่านวัย 31 ปีเพราะถ้าฟอร์มของนักเตะต่ำกว่ามารตฐานแล้วพาทีมพลาดเตะชปล.ในซีซั่นหน้าอีกทางสโมสรก็คงต้องทำการมอบออปชั่นทีมขยายข้อผูกมัดฤดูกาล 2023-24 ปล่อยหมดข้อผูกมัด ด้วยเหตุนี้ โรฆีบลังโกส จึงอยู่ในรายชื่อแรกๆเนื่องจากเป็นอีกหนึ่งทีมที่ปลุกปั้น เด เคอา มาตั้งแต่เยาวชนในปี 2007 และได้ผลักดันขึ้นไปอยู่ในชุดใหญ่ในอีกสองปีต่อมา และได้ทำการแย่งชิงมือหนึ่งจนย้ายออกไปในช่วงซัมเมอร์ 2011


ผีเตรียมเจรจาสัญญาใหม่กับแรชฟอร์ด

ดิ เอ็กซ์เพรส เผย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเตรียมเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดาวรุ่งของทีม กองหน้าวัย 24 ปีได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีตลอดช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา จึงทำให้มีข่าวเรื่องของการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาปีนี้อยู่ภายใต้การควบคุมทีมของ  เอริก เทน ฮาก แรชฟอร์ด จึงได้กลับมาลงสนามอีกครั้งและสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยทำ 3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จาก 6 เกมในพรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญาของนักแข้งในปัจจุบันได้เหลือถึงแค่ซัมเมอร์เท่านั้น ถึงแม้จะมีอ็อปชั่นขยายเวลาเพิ่มอีก 12 เดือน แต่ถึงอย่างนั้นทางสโมสรก็ไม่ต้องการให้สัญญาของนักเตะเข้าสู่ช่วงปีสุดท้าย จากการรายงานของสื่ออังกฤษเผยว่าทาง ปีศาจแดง กำลังทำการเตรียมเจรจากับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เรื่องสัญญาฉบับใหม่โดยพร้อมที่จะขยายสัญญาเพิ่มไปจนถึงปี 2027 มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้เป็นเด็กปั้นของ ปีศาจแดง และได้ขึ้นมาเป็นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ช่วงปี 2016 และได้ลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 309 เกม ทำ 96 ประตูกับ 60 แอสซิสต์


ปีศาจแดงขาดทุนยับทะลุ115.5 ล้านปอนด์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเผยผลประกอบการในฤดูกาลของปี2021-2022 ว่าสโมสรขาดทุนยับทะลุ115.5 ล้านปอนด์แม้จะมีรายได้เพิ่มก็ตาม ปีศาจแดง ออกมาเปิดเผยตัวเลขล่าสุดของงบการเงินล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2022 แสดงให้เห็นว่าทางสโมสรได้ขาดทุนเพิ่มจากเดิมถง 23 ล้านปอนด์เมื่อเทียบกับเมื่อช่วงปี 2021 รวมไปถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นอีก 23% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทางสโมสรได้ออกมาระบุตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 95.4 ล้านปอนด์นั้นลดลงเหลือ 64.6 ล้านปอนด์ นอกจากนี้การเซ็นสัญญากับนักเตะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาได้ทำให้ค่าจ้างของสโมสรเพิ่มขึ้น 19.5% จากเดิม 322.6 ล้านปอนด์ เป็น 384.2 ล้านปอนด์ ซึ่งนับว่าเป็นยอดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์และได้ทำลายสถิติของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ 355 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขนี้ได้แสดงถึงรายรับที่เพิ่มขึ้นถึง 89.1 ล้านปอนด์ ในขณะที่ทางสโมสรได้ทำการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไป 33.6 ล้านปอนด์ คลิฟฟ์ บาตี้ ได้กล่าวว่า “ผลประกอบการในปี 2022 ของเราแสดงให้เห็นว่าเราได้ฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ รวมไปถึงการกลับมาของแฟนบอลอย่างเต็มรูปแบบและพันธมิตรทางการค้าที่ลงทุนเพิ่มขึ้นในทีม”


เมอร์เท่อห์เผยจะไม่ทุ่มตลาดม.ค.เท่าซัมเมอร์

จอห์น เมอร์เท่อห์ ผู้อำนวยการกีฬาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเผยว่าสโมสรพร้อมที่จะสนับสนุน เอริก เทน ฮาก อย่างเต็มที่แต่การเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวคงไม่ทุ่มเท่าหน้าร้อนที่ผ่านมา ในตลาดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ปีศาจแดง เป็นหนึ่งในทีมที่ทุ่มเงินเป็นจำนวนมหาศาลในการเสริมทัพถึง 210 ล้านปอนด์ หลังจากที่ได้ทำการคว้าตัว คริสเตียน เอริคเซ่น , ลิซานโดร มาร์ติเนซ ,  กาเซมีโร่ ,  ไทเรลล์ มาลาเซีย , มาร์ติน ดูบลาฟก้า และ อันโตนี่ มาร่วมทีม ส่วนในอนาคต เมอร์เท่อห์ ได้เผยว่า “ในภาพรวมของแผนงานในการเสริมทัพครั้งหน้าเราได้พิจารณาไว้ว่าจะไม่ทำเหมือนเดิมกับช่วงตลาดซัมเมอร์ในหน้าหนาว(ตลาดเดือนมกราคม)” “ซึ่งแผนงานของเราจะยังคงโฟกัสไปที่ตลาดซัมเมอร์เหมือนที่ผ่านมา” อย่างไรก็ตาม เมอร์เท่อห์ ได้ยืนยันว่า “ทางเราจะยังคง สนับสนุน เอริก เทน ฮาก เหมือนเดิมต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะหาผู้เล่นได้อย่างมีคุณภาพและมีคาแรกเตอร์ที่ดีพอในการพาทีมประสบความสำเร็จ”


ดอร์ทมุนด์ตั้งค่าตัวเบลลิงแฮมที่150 ล้านยูโร

สื่อดิ แอธเลติกเผย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้กำหนดราคาค่าตัวของ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางชาวอังกฤษ ไว้ราวๆที่ 150 ล้านยูโร เบลลิงแฮม กำลังตกเป็นที่สนใจในตอนนี้หลังจากที่มีสื่อรายงานว่า กองกลางชาวอังกฤษ กำลังได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ทั้งใน พรีเมียร์ลีก และ ลา ลีกา ของสเปน โดยเฉพาะทีม เรอัล มาดริด ที่ตอนนี้กำลังต้องการตัวกองกลางรายใหม่ไปทำหน้าที่แทน  ลูก้า โมดริช ในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ซึ่งได้มีรายชื่อของ เบลลิงแฮม อยู่ด้วยและเป็นที่ฮือฮาว่าสโมสรอยากได้ตัวนักเตะเป็นอย่างมากในช่วงนี้ ทั้งนั้นการแข่งขันในครั้งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเนื่องจากทางสื่อเผยว่า  ราชันชุดขาว จะต้องฟาดฟันกับ ลิเวอร์พูล , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เชลซี  และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พร้อมจะร่วมแย่งชิงในตลาดหน้าร้อนปีหน้าด้วย นอกจากนี้ ทางสื่อยังรายงานต่อว่า ดอร์ทมุนด์ ได้กำหนดราคาค่าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม ไว้ที่ 150 ล้านยูโรเลยทีเดียว เนื่องจากนักเตะยังคงเหลือสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2025 ทำให้ ดอร์ทมุนด์ ได้ยึดมั่นว่าต้องการที่จะรั้งให้นักเตะอยู่กับทีมต่อไปหรือถ้าจะปล่อยก็ต่อเมื่ออีกทีมพร้อมจ่ายตามราคาที่วางไว้


ปีศาจแดงแชมป์ซื้อนักเตะแพงสุดในยุโรป

CIES Football Observatory ได้ออกมาเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่จ่ายค่าตัวนักเตะแพงกว่าความเป็นจริงมากที่สุดในยุโรป CIES เป็นหอสังเกตการณ์ฟุตบอลที่ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและสถิติในวงการฟุตบอลได้ทำการรวบรวมข้อมูลซื้อขายนักเตะทั่วยุโรปตั้งแต่ปี 2012 โดยได้ออกมาเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ใช้เงินซื้อนักเตพเกินความเป็นจริงมากกว่าสโมสรอื่นๆในยุโรป โดยทาง CIES ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและได้ประเมินสโมสรต่างๆที่มีการจ่ายเงินซื้อนักเตะถึง 10 รายนับตั้งแต่ปี 2012 มาพบว่า ปีศาจแดง เป็นสโมสรที่คว้านักเตะใหม่เข้าในทีมถึง 33 ราย ซึ่งจากการประเมินพบว่า ยูไนเต็ด ได้ทำการใช้จ่ายเกินมูลค่าของตลาดไปมากถึง 238 ล้านยูโร!! ซึ่งตัวเลขดังกว่าเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในยุโรปในตลาด 10 ปีที่ผ่านมานี้ โดยทีมที่ใช้จ่ายลองลงมาคือ ยูเวนตุส ใช้ไปที่จำนวน 234 ล้านยูโร , เปแอสเช ที่ 162 ล้านยูโร , แอสตัน วิลล่า 149 ล้านยูโร และ เรอัล มาดริด 148 ล้านยูโร ทั้งนี้ทาง CIES ยังได้เผยอีกว่า มีเพียงแค่ 3 สโมสรในพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่ใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าราคา ซึ่งก็คือ ไบรท์ตัน , วูล์ฟแฮมป์ตัน และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์  นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือ แมนฯ ซิตี้ ได้ทุ่มเงินจำนวน 1.18 พันล้านยูโร ในการซื้อนักเตะถึง 38 รายตลอด 10 ปีที่ผ่านมาแต่ทาง CIES กลับเผยว่าทาง แมนฯ ซิตี้ ได้ใช้เงินเกินไปแค่ 23 ล้านยูโรเท่านั้น