ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

ผลบอล สเปอร์สชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0 ซน ฮึง-มิน ยิง 2 ตุง

ผลบอล สเปอร์สชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0 ซน ฮึง-มิน ยิง 2 ตุง

“ไก่เดือยทอง” เปิดบ้านไล่ถล่ม “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ยับเยิน 4-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สเปอร์สคืนฟอร์มเก่ง มีการควบคุมเกมได้อย่างเหนือชั้น ทั้งในแง่ของการโจมตีและการป้องกัน ซน ฮึง-มิน คืนฟอร์มเก่ง เกมนี้ซัดคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ สเปอร์ส ปลดล็อกคว้าชัยพรีเมียร์ลีก สเปอร์ส : กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, เดสตินี่ อูโดกี้ (เจด สเปนซ์ น.73) – เดยัน คูลูเซฟสกี้ (ป๊าป มาตาร์ ซาร์ น.67), อีฟส์ บิสซูม่า (อาร์ชี่ เกรย์ น.73), เจมส์ แมดดิสัน (ลูคัส เบิร์กวัลล์ น.79) – เบรนแน่น จอห์นสัน, ซน ฮึง-มิน, วิลสัน โอโดแบร์ (ริชาร์ลิซอน น.66) เอฟเวอร์ตัน : จอร์แดน พิคฟอร์ด – โรมัน ดิ๊กซั่น, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, ไมเคิ่ล คีน, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ – ทิม อิโร้กบูนัม, อิดริสซ่า กาน่า เกย์ (แฮร์ริสัน อาร์มสตรอง น.90+1) – แจ็ค แฮร์ริสัน (เยสเปอร์ ลินด์สตรอม น.57), อับดูลาย ดูกูเร่ (อิลิมาน เอ็นดิอาย น.57), ดไวท์ แม็คนีล – โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน (เบโต้ น.72)


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024-2025 ลิเวอร์พูล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024-2025 ลิเวอร์พูล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024-2025 หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ช่วยกันทำคนละประตู ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด อาร์เน่อ สล็อต นายใหญ่ชาวดัตช์คนใหม่ของลิเวอร์พูล ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงด้วยการเก็บหกแต้มเต็มจากสองนัดแรกของซีซั่นหลังเปิดบ้านพิชิต เบรนท์ฟอร์ด ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน -ไรอัน กราเฟนแบร์ก, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ – ดีโอโก้ โชต้า เบรนท์ฟอร์ด (4-3-3) : มาร์ค เฟล็คเค่น – แมดส์ โรเออร์สเลฟ, เนธาน คอลลินส์, อีธาน พินน็อค, คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ – คริสเตียน นอร์การ์ด, วิตาลี่ ยาเนลท์, มาธิอัน เยนเซ่น, คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ -ไบรอัน เอ็มเบอโม่, โยอัน วิสซ่า


ลิเวอร์พูล VS เบรนท์ฟอร์ด 2-0 หงส์แดง โชว์ระเบิดฟอร์มเก่ง

นำถิ่นทัพ หงส์แดง โชว์ฟอร์มเก่งเปิดรังผึ้งน้อยเอาชนะทัพ ผึ้งพิฆาต ไปแบบขาดลอย โดยได้ประตูจาก หลุยส์ ดิอาส และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ คนละ 1 ประตู พาทีมเก็บ 3 คะแนนเกาะติดกลุ่มต้นๆของหัวตารางได้สำเร็จ ส่วนทาง เบรนท์ฟอร์ด งานนี้ไม่มีประตูต้องกลับบ้านมือเปล่า เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 13 นาที หงส์แดง ได้ประตูขึ้นนำทันที 1ต่อ 0 จากจังหวะสวนกลับหน้าปากประตูตัวเอง ดีโอโก้ โชต้า พาบอลขึ้นมาก่อนแทงทะลุช่องให้ ลุยส์ ดีอาซ พาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดผ่านมือ มาร์ค เฟล็คเค่น เข้าไปอย่างเด็ดขาด  ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกที นาที 41  เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนล็อกเข้าซ้ายซัดไปติดบล็อค เช่นเดียวกับทีมเยือน เดอะ บีส์ ได้โอกาสจบจาก ลูอิส พ็อตเตอร์ แต่บอลยังไปเข้ามือ  อลีสซง  นาที 62 เดอะ ค็อป เกือบได้เฮหลัง เทรนต์ เปิดคอนเนอร์ทางด้านซ้ายด้วยขวาบอลโค้งมาเสาแรกพุ่งชนเสาอย่างจัง ก่อนจังหวะต่อเนื่องบอลครอสมาให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ ขึ้นโขกเดี่ยวๆ แต่บอลพุ่งไปเข้ามือ จนในที่สุดความพยายามของ ทีม หงส์แดง ก็ได้นำพาประตูที่ 2 มาจนได้ จากจังหวะนาทีที่ 71 ลุยส์ ดีอาซ ส่งต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยซ้ายหนีตัว มาร์ค เฟล็คเค่น เข้าไป เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดรังเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 คว้าชัยสองนัดติดรั้งที่ 4 มี 6 แต้มเต็มเท่าจ่าฝูง แมนซิตี้,


เชลซี เก็บชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาล แต่ฟอร์มยังเป็นที่น่ากังวล

หลังจากเปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน เชลซี ตั้งเป้าว่าต้องเอาชนะคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง เซอร์เวตต์ ให้ได้ เพราะนอกจากจะเป็นใบการันตีตั๋วเข้ารอบไปเล่นใน ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้นี้ยังมีคุณค่าที่สมคัญของกำลังใจก่อนที่พวกเขาจะบุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ในช่วงสุดสัปหาห์นี้ด้วย ผลการแข่งขันออกมาตามคาด ทีมเชลซี เปิดบ้านเอาชนะคู่แข่งจาก สวิตเซอร์แลนด์ ได้สำเร็จที่สกอร์ 2-0 โดยลูกแรกมาจากจุดโทษของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ก่อนที่ตัวสำรองอย่าง โนนี่ มาดูอาเก้ จะมายิงประตูทิ้งห่างให้ทีมได้เปรียบกว่าทีมคู่ต่อสู้ ในเกมรูปเกมก็ต้องบอกตามตรงว่า เชลซี ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอีกเป็นจำนวนมากหลายจุด ทั้งในแง่ของการจัดระเบียบเกมรับยันไปถึงการเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย เพราะนี่ขนาดเจอแค่ทีมอันดับ 5 จาก สวิส ซูเปอร์ลีก รูปเกมยังไม่เป็นต่อจนถึงขั้นพับสนามบุกได้ แน่นอนว่าความกดดันเริ่มตกมาที่ผู้เป็นโค้ชอย่าง เอ็นโซ่ มาเรสก้า เพราะในขณะที่ทีมใช้อุปกรณ์ใในการแข่งขันที่มีคุณภาพสูง หากเชฟอย่าง มาเรสก้า ยังปรุงไม่กลมกล่อมเสียที เขาอาจโดนริบตำแหน่งก่อนเวลาอันควรก็เป็นได้ แต่ถึงยังไรทีมเชลซี ก็ยังถือว่าเดินเกมเอาชนะทีมคู่ต่อสู้ได้มาอย่างยากลำบาก แต่ถึงเป็นกำลังใจให้ลูกทีมมีแรงสู้กับทีมคู่ต่อสู้ต่อไปในนัดถัดไป


เรือใบสีฟ้า ปิดดีล! อิลคาย กุนโดกัน กลับคืนถิ่นไร้ค่าตัว

เรือใบสีฟ้า ปิดดีล! อิลคาย กุนโดกัน กลับคืนถิ่นไร้ค่าตัว

สื่อดังประกาศ เฮียร์ วี โก อิลคาย กุนโดกัน มิดฟิลด์จอมคลาสสิก กลับ แมนซิตี้ ชัวร์แล้วตอนนี้ เตรียมเซ็นสัญญา 1 หลัง บาร์ซ่า ปล่อยออกจากถิ่น คัมป์ นู แบบไม่มีค่าตัวแม้แต่บาทเดียว ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชื่อดัง ยืนยันว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บรรลุข้อตกลงกับทาง บาร์ซ่า ดึง อิลคาย กุนโดกัน กองกลางมากประสบการณ์ชาวเยอรมัน กลับ“เรือใบสีฟ้า” เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีข้อเสนอใหญ่โดยเฉพาะจากกาตาร์ แต่นักเตะชาวเยอรมัน ตัดสินใจกลับมาค้าแข้งที่อังกฤษแบบไม่มีค่าตัว พร้อมออปชั่น สำหรับ อิลคาย กุนโดกัน ค้าแข้งกับทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นาน 7 ปี ซึ่งเขาคว้าแชมป์กับทีม “เรือใบ” มาได้ 14 รายการ แบ่งเป็น แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, คาราบาว คัพ 4 สมัย และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย กุนโดกัน เป็นนักเตะคนแรกที่ เป็ป ดึงตัวมาเสริมทัพตอนเข้ามาคุม แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2016 และร่วมกันคว้าแชมป์มากมาย รวมทั้งเป็นกัปตันทีมตอนคว้าทริปเบิ้ลแชมป์เมื่อปี 2023 ด้วย ก่อนย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา เมื่อปีที่แล้ว


ลิเวอร์พูล พร้อมปาดหน้า แมนยู คว้าตัว แบรนธ์เวต จาก เอฟเวอร์ตัน

วันที่ 23 สิงหาคม 2567 สื่อข่าวรายงานว่า สโมสรชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล ประกาศว่า พร้อมคว้าตัวนักเตะจากทีม เอฟเวอร์ตัน อย่าง จาร์ราด แบรนธ์เวต ที่มีข่าวกับทีมยักษ์ใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเสริมทัพในแนวหลังในช่วงซัมเมอร์นี้ ทีมปีศาจแดง แมนยู เคยยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัว จาร์ราด แบรนธ์เวต ถึง 2 ครั้ง โดยรอบล่าสุดทางสโมสรแมนยู ได้ยื่นข้อเสนอสูงถึง 50 ล้านปอนด์ (2,250 ล้านบาท) แบ่งเป็นค่าตัวก้อนแรก 45 ล้านปอนด์ และโบนัสเพิ่มเติมอีก 5 ล้านปอนด์ พร้อมยื่นสัญญาระยะยาวและให้ค่าเหนื่อยกับนักเตะสัปดาห์ละ 160,000 ปอนด์ (7.2 ล้านบาท) แต่ทางเอฟเวอร์ตันได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวเนื่องจาก ทางสโมสรต้องการค่าตัวสูงถึง 70 ล้านปอนด์ (3,150 ล้านบาท) และรายงานล่าสุดทางสโมสร ลิเวอร์พูล พร้อมตอบรับข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์ ของทางเอฟเวอร์ตัน ทางแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า ลิเวอร์พูล ต้องการที่จะคว้าตัว จาร์ราด แบรนธ์เวต โดยการเสนอค่าตัวก้อนแรกให้กับทางสโมสร 63 ล้านปอนด์ (2,835 ล้านบาท) พร้อมโบนัสเพิ่มเติมอีก 7 ล้านปอนด์ (315 ล้านบาท) ให้กับทางเอฟเวอร์ตัน ทั้งนี้ทางนักเตะ จาร์ราด แบรนธ์เวต ในปัจจุบันเหลือสัญญากับทางสโมสร เอฟเวอร์ตัน อีก 3 ปี และพร้อมที่จากย้ายมาเล่นกับสโมสรใหญ่ เนื่องจากทีมเอฟเวอร์ตันเป็นทีมที่หนีตกชั้นทุกฤดูกาลในช่วงที่ผ่านมา


สเปอร์สเตรียมปล่อยกองหลังดาวรุ่งให้ทีมในแชมเปี้ยนชิพทดลองใช้งาน

กองหลังอายุเพียง 19 ปี ได้ออกไปสะสมประสบการณ์กับ พลีมัธ อาร์ไกล์ ในครึ่งหลังของฤดูกาล 2566/2567 ลงเล่น 18 นัดในแชมเปี้ยนชิพ และช่วยให้ทีมรอดไปเล่น ลีกวัน ได้อย่างเฉียดฉิวในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมานั้นเอง ฟิลลิปส์ หนุ่มจากซัลฟอร์ดที่ได้ย้ายจากอะคาเดมีแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มาลงสนามกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เซ็นสัญญายาว 5 ปีจนถึงกลางปี 2571 เจ้าตัวมีประสบการณ์ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษตั้งแต่อายุ 17 ปี ถึง 19 ปี และยังเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเวลส์ชุดยู-16 มาแล้วเหมือนกัน แต่ในระดับทีมชุดใหญ่ของสเปอร์สนั้น เขายังไม่เคยลงสนามเลยแม้แต่เกมเดียว


เมื่อ ราฟาเอล เบนิเตซ ได้เลือกแข้งเก๋าจากยุคแดงเถือก! อย่าง ลิเวอร์พูล

เมื่อราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือคนดังในวงการฟุตบอล เผยเหตุผลว่า ทำไม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ขึ้นแท่นลูกทีมเทพสุดของเขา บอกเลยว่า เจอร์ราร์ด ไม่ได้มีดีแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีครบทั้งสปีด สกิล และหัวใจนักสู้! ซึ่งเขาก็คือที่สุดแล้วจริงๆ อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งที่สุดในโลก อีกทั้ง เบนิเตซ ก่อนหน้านี้เขายังเคยเป็นกุนซือให้กับหลายทีมอีกเช่นกัน อาทิเช่น Valencia, Liverpool, Inter Milan, Chelsea, Napoli, Real Madrid และ Newcastle United ที่ผ่านมาเขาได้ร่วมงานกับสุดยอดแข้งในตำนาน แต่สิ่งที่เขาชอบเล่าซ้ำๆ นั้นก็คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด คือนักเตะ อันดับ1 ที่เขานั้นชอบมากที่สุดแล้ว เมื่อล่าสุดนี้ เบนิเตซ เคยได้ไปร่วมงานรายการ Podcast ของ The Overlap เมื่อ แกรี่ เนวิลล์ รับบทพิธีกรสุดเฟี้ยว จู่ๆ ถามเบนิเตซแบบตรงไปตรงมา ว่า “เคยไม่เชื่อใจเจอร์ราร์ดบ้างไหม?” งานนี้มีลุ้นว่าจะตอบตรงแค่ไหนกันเชียว


แมนยู ปล่อยโกลดาวรุ่ง ให้กับสโมสรในออสเตรียเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

ราเด็ค วิเท็ค ผู้รักษาประตูดาวรุ่งชาวเช็กจะได้เฝ้าเสากับ บลาว-ไวส์ ลินซ์ ทีมในบุนเดสลีกา ออสเตรีย ตลอดทั้งฤดูกาลปี 2024และ 2025 หลังทำข้อตกลงขอย้ายแบบยืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามการยืนยันทางการผ่านเว็บไซต์สโมสร ดีลนี้ไม่ได้เป็นการซื้อขายตัวนักเตะแบบผูกขาด โดย วิเท็ค ดีกรีทีมชาติสาธารณรัฐเช็กรุ่น U-20 ย้ายมากอยู่ทีม”ปีศาจแดง” เมื่อปี 2020 และ 2 ปีตอมาได้รับหน้าที่เป็นผู้รักษาประตู ให้ทีมชุดแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ กระทั่งเตะตาทีมออสเตรียจากฟอร์มเซฟอุตลุดตอนลับเกือกไปเยือน แต่ถึงจะโดนยืมตัวนักเตะดาวรุ่งโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมไป โค้ช เอริก เทน ฮาก ก็ไม่หวั่นหรือมีกังวลใดๆ เพราะเขามีการวางแผนรับมือทุกสถานะการณ์ พร้อมทั้งยังเหลือลูกทีมฝีเท้าดีๆอยู่อีกหลายตำแหน่ง โค้ชมีความเชื่อใจและแผนตั้งรับที่ดีถึงแม้จะเสียตัวนักเตะดาวรุ่งไป 1 คน และพร้อมเปลี่ยนใจให้ คาเซมิโร ที่ยังเหลือสัญญา 2 ปี ให้ได้อยู่กับทีมต่อไป หลังทำผลงานน่าพอใจในช่วงพรีซีซั่นและช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ อีกทั้งเขายังไมได้รับข้อเสนอที่พึ่งพอใจ ถึงแม้จะมีข่าวว่าหลายทีมเงินหนาในลีกซาอุฯ พร้อมคว้าตัวก็ตาม สุดท้ายแมนยูจะยังคงพยายามรักษาตัวนักเตะดาวรุ่งไว้ แต่ถ้าลูกทีมของเขาได้ข้อเสนอที่น่าพึ่งพอใจเขาก็ ต้องปล่อยลูกทีมไปตามทางที่เขาเลือกเดิน แต่ในระหว่างที่จะโดนซื้อขายตัวนักเตะ โค้ช เอริก เทน ฮาก ก็มีแผนไว้เตรียมรับมือฤดูกาลนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว


เรือใบสีฟ้า ทีมเต็ง ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

หลังจากเปิดฤดูกาลในนัดแรก ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติด เปิดประเดิมเจอทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี ทีมดังจากลอนดอน ก็คว้าชัยมาได้อยากไม่ยากด้วยสกอร์ 2-0 แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเสริมทัพนักเตะเพียงคนเดียว คือ ซาวินโญ ปีกชาวแซมบ้า แต่ก็มีขุมกำลังที่ดีเยี่ยมอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์, แบร์นาร์โด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์,โรดรี, ฟิล โฟเดน, แจ็ค กรีลิช, รูเบน ดิอาส, โจสโก กวาร์ดิโอล และแอนเดอร์สัน ก็เพียงพอสำหรับการคว้าชัยในแมตช์นี้ ผนวกกับฟอร์มการเล่นของทีม เรือใบสีฟ้า นั้น แสดงให้เห็นถึงการเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพในการคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้อย่างไม่ยากเย็น รวมถึงการที่ไลน์อัพนักเตะไม่เปลี่ยนแปลงมากทำให้มีนักเตะที่เล่นเข้าขากันได้ดีอยู่แล้ว ฟอร์มการเล่นหลังเจอกับ เชลซี นั้น ทำให้ผู้คนต่างมองว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่เต็งแชมป์ที่สุดในซีซั่นนี้ มี เออร์ลิง ฮาลันด์ และ มาเตโอ โควาชิซ ยิงคนละ 1 ประตู และคว้าชัยชนะในแมตช์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลที่แล้วถือเป็นทีมท็อป 1 จากเกาะอังกฤษ สามารถคว้าแชมป์ได้ 3 รายการติดต่อ และครองแชมป์พรีเมียร์ 4 สมัยติดต่อ ในเรื่องของดีกรีแชมป์ซีซั่นนี้ก็ยังคงอยู่เนื่องจากโชว์ฟอร์มการเล่นนัดเปิดสนามได้ดีเยี่ยม