เชลซี

ลิเวอร์พูล พร้อมปล่อยแข้งมือดี พร้อมตั้งค่าตัวเป็นที่เรียบร้อย

ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เดอะ ซัน วื่อข่าวชื่อดังจากอังกฤษ รายงานข่าวว่า เชลซี เตรียมตัวดึงนักเตะตำแหน่งผู้รักษาประตู จากสโมสรลิเวอร์พูล อย่าง ควีวิน เคลเลเฮอร์ หลังจากเจ้าตัวได้โชว์ฟอร์มลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล เชลซี อยากได้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ไปร่วมทีมหลังจากที่ ผู้รักษาประตูที่มีอยู่ในทีมไม่มีผลงานที่โดดเด่นจนเข้าตา เอ็นโซ มาเรสกา ทั้ง โรเบิร์ต ซานเชซ, ฟิลิป ยอร์เกนเซน ในขณะที่นายประตูอีกหลายคนยังอยู่ในระหว่างการปล่อยสัญญากู้ยืมตัว ส่วน ควีวิน เคลเลเฮอร์ วัย 25 ปี มีข่าวออกมาไม่ขาดสายว่ากำลังชิงตำแหน่งนายประตูมือหนึ่งของ ลิเวอร์พูล โดยทางหงส์แดงอาจยินยอมปล่อยสัญญาของนายประตูคนนี้ได้ เนื่องจากการตั้งค่าตัวของ เชลซี โดยตั้งไว้ที่ 35 ล้านปอนด์ (1,540 ล้านบาท)


โปรแกรมบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ 2024-25 ประจำสัปดาห์ที่ 11

โปรแกรมบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมรภูมิลูกหนังเบอร์ 1 ของโลก ฤดูกาลที่ 2024-25 ประจำสัปดาห์ที่ 11 นี้ มีคู่ยิ๊กแมตช์ที่น่าสนใจ 1 คู่ คือ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เจอกับ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล โดย เชลซี นำทีมโดยกุนซืออย่าง เอ็นโซ มาร์เรสกา และ อาร์เซนอล นำทีมโดยเฮดโค้ชอย่าง มิเกล อาร์เตตา ขณะที่ในสัปดาห์นี้มีคู่ที่น่าสนใจมากมายอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเยือน นกนางนวล ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา ทางด้าน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ และ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ พบกับทีมอย่าง ม้าขาวเจ้าพายุ อิปสวิช ทาวน์


เต็งหามแชมป์ เชลซี พบ โนอาห์ 7 พ.ย. 67

เต็งหามแชมป์ เชลซี พบ โนอาห์ 7 พ.ย. 67

คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบลีก สเตจ ที่สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี เปิดบ้านต้อนรับ โนอาห์ ผลการแข่งขันที่คาด เชลซี เชือดหมูชนะชัวร์ สิงห์บลูส์ ยักษ์ใหญ่ จากศึกพรีพรีเมียร์ลีค อังกฤษ นาทีนี้ยังเหนือกว่าคู่แข่งทุกทีมในรายการ คอนเฟอเรนซ์ ลีก นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น – อักแซล ดิซาซี่, โทซิน อดาราบิโอโย่, เบอนัวต์ บาเดียชิล, มาร์ก กุกูเรย่า – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เรนาโต้ เวก้า – เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์, ชูเอา เฟลิกซ์, มิไคโล มูดริค – คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู โนอาห์ (4-3-3): อ็อกนีเยน ชานชาเรวิช – ฮอฟฮันเนส ฮัมบาร์จุมยาน, กอนซาโล่ ซิลวา, เซอร์เก มูรัดยาน, ไบรอัน เมนโดซ่า – ยาน เอเตกี, อิมราน อูลัด โอมาร์, กุสตาโว่ ซ็องกาเร่ – เอลแดร์ แฟร์เรยร่า, กอนซาโล่ เกรโกริโอ, เวอร์ชิล แป็งซง


แฟนสิงห์เริ่มกังวล หลังเชลซีเผย อาการของ โคล พาลเมอร์ อาจจะบาดเจ็บ

ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 สโมสรเชลซี ออกมาเผยภาพการฝึกซ้อมล่าสุด เพื่อเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกรายการ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก ที่เชลซีจะต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โนอาห์ ทีมจากประเทศอาร์เมเนีย ในคืนพรุ่งนี้ โดยสิ่งที่ทำให้แฟนสิงห์เป็นกังวลมากที่สุดคือ การที่ โคล พาลเมอร์ ไม่ปรากฏตัวอยู่ในภาพการฝึกซ้อมชุดล่าสุดของทีม โดยก่อนหน้านี้ เจ้าตัวลงแข่งในศึกพรีเมียร์ลีกและโดน ลิซานโดร มาร์ติเนซ เข้าสกัดจนได้รับอาการบาดเจ็บ โดยสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ทางสโมสรเชลซีและ เอ็นโซ มาเรสกา ยังไม่ได้ออกมายืนยันถึงอาการบาดเจ็บของ โคล พาลเมอร์ เป็นที่แน่ชัดว่ามีอาการหนักเบาเพียงใด ข้อมูลล่าสุดก็มีเพียงแค่ว่าเจ้าตัวต้องประคบน้ำแข็งไว้ที่หัวเข่า หลังจบเกมกับ แมนยู เท่านั้น


เจดอน ซานโช่ อดเจอเชลซี เพราะหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมเยือน แมนยู

เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี ยัน เจดอน ซานโช่ หมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมเยือน แมนยู พร้อมระบุพยายามเลือกทีมเพื่อชนะ นิวคาสเซิ่ล ในเกมคาราบาว คัพ แต่โชคร้ายที่แพ้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมเชลซี ยืนยัน เจดอน ซานโช่ ปีกจอมพลิ้วชาวอังกฤษ หมดสิทธิ์ลงสนามช่วยทีมในเกมพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ซานโช่ ย้ายจาก “ปีศาจแดง” มาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสัญญายืมตัวช่วงซัมเมอร์ล่าสุด และนักเตะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” จนทำให้หลายคนมองว่าเขากำลังจะกลับคืนฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในเกมบิ๊กแมตช์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซานโช่ พลาดลงสนามให้กับ เชลซี ในการกลับไปเยือนต้นสังกัดแม่ ซึ่งตามมารยาทจะหมดสิทธิ์ลงสนามเนื่องจากติดสัญญายืมตัว โดยเรื่องนี้ มาเรสก้า เปิดใจในงานแถลงข่าวก่อนเกมว่า “นักเตะทุกคนพร้อมลงสนาม แต่ เจดอน คงไม่ได้เล่น เขามีอาการป่วยช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา


โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 ประจำสัปดาห์ที่ 10

โปรแกรมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมรภูมิลูกหนังอันดับ 1 ของโลก ประจำสัปดาห์ที่ 10 วันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2567 โดยในสัปดาห์นี้มีคู่บิ๊กแมตช์ 1 คู่ที่น่าสนใจและแฟนๆจับตามองที่สุด คือ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ สิงห์บลู เชลซี โดยทั้งคู่เป็นสองทีมใหญ่ที่ทำผลงานได้ผิดหวังที่สุดในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ เชลซี กลับมีผลงานที่ดีขึ้นอย่างมากในฤดูกาลนี้ โดยผู้จัดการใหม่ของทีม เชลซี ที่ทำผลงานได้ดีขึ้นคือ เอ็นโซ มาเรสกา กุนซือชาวอิตาลี ส่วนอีกทีมอย่าง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผลงานยังย่ำแย่เหมือนเดิม โดยผู้จัดการคือ เอริก เทน ฮาก ที่ทำผลงานในซีซั่นนี้ได้แย่ที่สุด จนทำให้เจ้าตัวมีโอกาสสูงมากที่จะหลุดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ แมนยู


พาลเมอร์ ยิงชัย เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1

พาลเมอร์ ยิงชัย เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 27 ต.ค.67 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี พบ นิวคาสเซิ่ล หลังเกมนี้ เชลซีชนะ ทำให้แซงปืนใหญ่ ขึ้นที่ 4 ของตารางคะแนนชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โคล พาลเมอร์ ยังคงโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังยิง ให้เชลซีชนะ นิวคาสเซิ่ล ไป 2-1 ประตู ส่วนทัพ “สาลิกาดง” ไร้ชัย 5 นัดรวด รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – รีซ เจมส์, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, เมาโล กุสโต้ – โรเมโอ ลาเวีย, มอยเซส ไกเซโด้ – โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เนโต้ – นิโกลัส แจ็คสัน นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : นิค โป๊ป – ติโน่ ลิฟราเมนโต้, ฟาเบียน แชร์, แดน เบิร์น, ลูอิส ฮอลล์ – ซานโดร โตนาลี่, บรูโน่ กิมาไรส์, โชลินตอน – ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน


ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับ เชลซี

ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับ เชลซี

“หงส์แดง”เครื่องแรง เฉือน “สิงห์บลูส์” ยึดจ่าฝูงคืน ลิเวอร์พูล รักษามาตรฐานที่ยอดเยี่ยมหลังเปิดรังแอนฟิลด์เฉือน เชลซี 2-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะเหนือ เชลซี ได้สำเร็จ เชลซี พยายามวิ่งไล่กดดัน ลิเวอร์พูล อย่างหนัก แต่ “หงส์แดง” เล่นเกมรับเหนียวแน่น “หงส์แดง” สามารถรักษาสกอร์ได้สำเร็จ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะด้วยสกอร์ 2-1 คว้าสามคะแนนสำคัญแซง เรือใบสีฟ้า ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้ง รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (โจ โกเมซ น. 81), อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ไรอัน กราเฟนแบร์ก, เคอร์ติส โจนส์ (อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ น. 81) ; โดมินิค โซโบซไล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โกดี้ คักโป (หลุยส์ ดิอาซ น.66) ; ดีโอโก้ โชต้า (ดาร์วิน นูนเญซ น. 30) เชลซี (4-3-3) : โรเบิร์ต ซานเชซ, ริซ เจมส์ (เรนาโต้ เวก้า น.53) , โทซิน อดาราบิโอโย (เบอนัวต์ บาเดียชิล น.53) , ลีวาย โคลวิลล์, มาโล่ กุสโต้ ; โรเมโอ ลาเวีย (เอ็นโซ เฟร์นานเดส น.53), มอยเซส ไกเซโด้, โคล พาลเมอร์ ; โนนี่ มาดูเอเก้ (คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู น. 76), เจดอน ซานโซ่ (เนโต้ น.46) , นิโคลัส แจ็คสัน


บิ๊กแมตช์ ลิเวอร์พูล พบ เชลซี 20 ต.ค. 67

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เวลา 22:30 ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงเปิดบ้านพบกับ เชลซี อันดับ 4 อยู่ห่างกัน 4 แต้มแถมยังชนะรวดเกมลีกนอกบ้านซีซั่นนี้ หงส์แดง พร้อมลุยชน สิงโตน้ำเงินคราม ดูดีมีขุมกำลังลงล็อก แต่ยังไงไม่ง่ายแน่กับการไปเยือน หงส์แดง ถึงแม้จะมีปัญหาบางตำแหน่งแต่ทรงยังดีมีตัวทดแทน ผลการแข่งขันที่คาด ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 3-2 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบซไล, โกดี้ คักโป – ดีโอโก้ โชต้า เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานชซ – มาโล่ กุสโต้, อักฉซล ดิซาซี่, ลีวาย โคลวิลล์, เรนาโต้ เวก้า – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไกเซโด้ – โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ – นิโกลัส แจ็คสัน


ชาลาห์ โชว์ฟอร์มเตะดี มีแวว เอาชนะ การแข่งระหว่างลิเวอร์พูลพบเชลซี

หนึ่งในคู่ใหญ่ของเกมฟุตบอลประจำวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้คงจะหนีไม่พ้นเกมที่ แอนฟิลด์ เมื่อ ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านเจอกับ เชลซี ในโปรแกรมที่ 8 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2024-25 นอกจากจะเป็นทีมใหญ่ และต่างก็มีนักเตะชั้นยอดอยู่ในทีมแล้วนั้น ปัจจุบันทั้ง “หงส์แดง” และ “สิงห์บลูส์” ต่างก็มีฟอร์มที่น่ากลัวพอๆ กันด้วย ซึ่งเราจะมาพูดถึงเกร็ดเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยของเกมนี้กัน การเจอกันในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุดของคู่นี้นั้น มีถึง 5 เกมด้วยกันที่จบลงด้วยผลเสมอ โดยครั้งเดียวที่ไม่เป็นแบบนั้นคือการเผชิญหน้ากันหนล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะไป 4-1 เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังจากเคยพ่าย เชลซี ในลีก 3 นัดติดต่อกันในช่วงระหว่างปี 2013-14 แล้วนั้น ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็กำลังข่ม เชลซี หนักมาก เพราะพวกเขาแพ้อีกฝ่ายแค่ 2 เกมจาก 19 นัดหลังสุดที่เจอกันในลีก โดยแบ่งเป็นการชนะ 7 เกมกับเสมอ 10 หน