รอย คีน

รอย คีน ได้ออกมาจิจารณ์ฟอร์มของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ว่าเล่นได้ห่วยมากในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ต้องเผชิญกับเกมที่ยากลำบากในเกมที่ต้องรับมือกับ อาร์เซน่อล โดยเกมนี้ทำให้หนุ่มดาวซัลโวมีโอกาสในการสัมผัสบอลไม่กี่ครั้งในเกม คีน ออกมาเผยว่าฟอร์มที่เห็นในเกมนั้นได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพโดยรวมของ ฮาแลนด์ กับการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ และได้บอกให้เขาปรับปรุงคุณภาพของตัวเอง คีน กล่าวว่า “การเล่นโดยรวมของเขาออกมาค่อนข้างแย่ มันไม่ใช่แค่วันนี้เท่านั้น ผมมองว่าการเล่นทั่วไปทั้งการโหม่งหรืออะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้าประตูนั้นดีที่สุดในโลก” “แต่ถ้ามองถึงการเล่นโดยรวมของเขากับนักเตะแบบนี้ผมมองว่ามันแย่มาก มันไม่ใช่แค่วันนี้ ผมมองว่าเขาต้องปรับปรุงโดยด่วน เขาเกือบจะเหมือนผู้เล่นลีก ทู” “นั่นคือสิ่งที่ผมมอง และการเล่นทั่วไปของเขาก็ควรปรับปรุงด้วย ผมมองว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ทีมมีกองหน้าที่เก่งขนาดนี้ แต่เขาจะต้องปรับเกมรอบด้านของตัวเขา” สำหรับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ในเกมนี้ได้สัมผัสบอลไปเพียงแค่ 23 ครั้งเท่านั้นโดยไม่มีการจ่ายบอลหรือยิงกรอบเลย

รอย คีน อดีตกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาชี้ว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้า ลิเวอร์พูล ไม่ควรแสดงอาการท่าทางที่หงุดหงิดออกมาขนาดนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นคนแอสซิสต์ให้ หลุยส์ ดีอาซ พาทีมทำประตูขึ้นนำไปก่อน จนกระทั่งนาทีที่ 77 นักเตะโดนเปลี่ยนออกจากสนามและทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง ฮาวี่ย์ เอลเลียตต์ ลงสนามมาแทน ในจังหวะที่ ซาลาห์ เดินออกจากสนามเจ้าตัวได้แสดงสีหน้าหงุดหงิดอย่างชัดเจน โดยทาง คีน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของกองหน้าคนดังว่าไม่พอใจได้ แต่ควรจะรู้จักเก็บอารมณ์เอาไว้ คีน กล่าวกับ สกาย สปอร์ตส์ ว่า “มันไม่ผิดที่จะหงุดหงิด แต่มันก็ไม่ควรมากไปจนเกินงาม เขาส่ายหัวจากนั้นก็ไปนั่งที่ม้านั่งสำรองแล้วยกมือนั่นนี่ เขาควรนั่งลงและหงุดพูด!” “คุณจะต้องรับมือกับมันให้ได้ หงุดหงิดได้แต่อย่ามากเกินไป เราเห็นนักเตะที่ดีกว่า ซาลาห์ มากมายโดนเปลี่ยนตัว มันเป็นแค่ว่วนหนึ่งในเกม”

รอย คีน ตำนานนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบรกความตื่นเต้นของ อาร์เซน่อล โดยการบอกว่าการได้แชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ไม่มีผลอะไรในอนาคต อาร์เซน่อล ดวลจุดโทษชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 ทำให้คว้าแชมป์มาครองท่ามกลางความยินดีของบรรดาแฟน ๆ บอลแต่ทาง คีน มองว่า การชนะในครั้งนี้ไม่ได้มีผลอะไรในอนาคตเลยนอกจากเป็นแค่เกมอุ่นเครื่องธรรมดา คีน กล่าวกับ ไอทีวี “เมื่อคุณลงสนาม คุณก็ต้องอยากชนะการแข่งขันเป็นธรรมดาแต่อย่าลืมว่ามันเป็นแค่เกมอุ่นเครื่อง” “ซิตี้ จะทำการตอบสนองกลับมาส่วน อาร์เซน่อล จะได้พลังที่ดีและมีความสุขในห้องแต่งตัว และเจอกับ  ฟอเรสต์ ในสัปดาห์หน้าด้วยอะไรที่ดีขึ้น” “ชัยชนะมันสำคัญกับ อาร์เซน่อล มากกว่า ซิตี้ แต่มันจะไม่มีผลอะไรกับอนาคตข้างหน้า”

รอย คีน อดีตกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาชี้ว่าสโมสรเก่าของตนอยู่เหนือกว่าทุกทีมในการแย่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่นหน้า ปีศาจแดง ได้ฟื้นคืนกลับมาฟอร์มดีได้หลังจากก่อนหน้านี้ออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่จนสามารถก้าวขึ้นมาคว้าอันดับที่ 3 ของพรีเมีนร์ลีกได้ โดยตามหลัง อาร์เซน่อล ที่คว้ารองแชมป์ 9 คะแนน และตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์ 14 คะแนน เมื่อถูกถามว่าใครจะเป็นคู่แข่งสำคัญในการแย่งแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลหน้า คีน ได้กล่าวผ่านทาง สกาย สปอร์ตส์ ว่า “ผมมองว่าน่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” “ผมคิดว่าน่าจะเป็น ยูไนเต็ด แน่นอนว่ามันจะขึ้นอยู่กับการเทคโอเวอร์และการเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะพวกเขาต้องการกองหน้าระดับโลก” “คุณคงจะมองว่า ยูไนเต็ด จะสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ในปีหน้า แต่มันคงเป็นเรื่องที่ยากเพราะ แมนฯ ซิตี้ นั้นยอดเยี่ยมจริงๆและมีผู้จัดการที่เก่งมากด้วย”

รอย คีน อดีตกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า อาร์เซน่อล ควรจะพอใจที่ได้คะแนนกลับบ้านจากเกมที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 ปืนใหญ่ ทำประตูขึ้นนำไปก่อน 2 ประตู ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก แต่ท้ายที่สุดก็เสียยสองลูกในช่วงท้ายครึ่งแรกและท้ายครึ่งหลัง ซึ่งการเสียสามแต้มไปจะน่าเสียดายสำหรับ ปืนใหญ่ แต่ คีน มองว่าทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ควรดีใจที่มีแต้มกลับบ้าน คีน กล่าวว่า “อาร์เซน่อล ควรดีใจที่ได้แต้มนี้มา ผมคิดแบบนั้นจริง ๆ ผมมองไปที่ภาพรวม และ ซิตี้ จะกลับมาคุมเกมได้ แต่ผมคิดว่ามันเป็นแต้มที่ดีสำหรับ อาร์เซน่อล” “ผมรู้ว่าพวกเขาขึ้นนำก่อน 2-0 และผมพูดได้เต็มปากว่าพวกเขาเล่นแบบสบาย ๆ แต่ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายเมื่อคุณอยู่ตรงนั้น, เจอกับ ลิเวอร์พูล, ต่อหน้า เดอะ ค็อป พวกคุณต้องดีใจที่ได้แต้มกลับบ้าน และขอบคุณที่ได้แต้ม” สำหรับเกมต่อไป ลิเวอร์พูล จะออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 17 เมษายน ส่วน ปืนใหญ่ จะออกไปเยือน เวสต์แฮม ในวันที่ 16 เมษายน