โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรของ บาร์เซโลน่า กำลังเตรียมหารือเกี่ยวกับการลดค่าจ้าง เฟรงกี้ เดอ ย็อง หลังจบฤดูกาลนี้ ทางสื่อออกมาเผยว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางโจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรของ บาร์เซโลน่า และ เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ได้ทำการหารือกันเกี่ยวกับเรื่องการลดค่าจ้างของนักเตะหลังจบซีซั่นนี้ เดอ ยอง ได้ทำการลงนามข้อตกลงที่รับค่าจ้างในจำนวนมหาศาลภายใต้ประธานสโมสรคนก่อน โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว แต่ทีมอาซูลกราน่าต้องทำการปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่หลังจากที่สโมสรได้ประสบปัญหาทางการเงิน ด้วยเหตุนี้จึงต้องทำการลดค่าจ้างของนักเตะที่รับค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลซึ่งหนึ่งในนั้นมีรายชื่อของ เดอ ยอง อยู่ด้วย ทาง บาร์เซโลน่า กำลังพยายามลดภาระค่าจ้างและทำการหาเงินหมุนเวียนเข้าสโมสรโดยการปล่อยตัว มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแต่กลับไม่สำเร็จเนื่องจาก เดอ ยอง ต้องการค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าต่อไป  ถึงอย่างนั้นทาง บาร์ซ่า ก็พยายามโน้มน้าวให้ เดอ ยอง ยอมลดค่าเหนื่อยลงหากต้องการที่จะร่วมงานกันต่อไป โดยมีรายงานระบุว่า เดอ ยอง กับ ลาปอร์ต้า จะทำการหารือกันหลังจบฤดูกาลนี้เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการลดค่าเหนื่อยของ เดอ ยอง ต่อไป

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเผยผลประกอบการในฤดูกาลของปี2021-2022 ว่าสโมสรขาดทุนยับทะลุ115.5 ล้านปอนด์แม้จะมีรายได้เพิ่มก็ตาม ปีศาจแดง ออกมาเปิดเผยตัวเลขล่าสุดของงบการเงินล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2022 แสดงให้เห็นว่าทางสโมสรได้ขาดทุนเพิ่มจากเดิมถง 23 ล้านปอนด์เมื่อเทียบกับเมื่อช่วงปี 2021 รวมไปถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นอีก 23% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทางสโมสรได้ออกมาระบุตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 95.4 ล้านปอนด์นั้นลดลงเหลือ 64.6 ล้านปอนด์ นอกจากนี้การเซ็นสัญญากับนักเตะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาได้ทำให้ค่าจ้างของสโมสรเพิ่มขึ้น 19.5% จากเดิม 322.6 ล้านปอนด์ เป็น 384.2 ล้านปอนด์ ซึ่งนับว่าเป็นยอดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์และได้ทำลายสถิติของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ 355 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขนี้ได้แสดงถึงรายรับที่เพิ่มขึ้นถึง 89.1 ล้านปอนด์ ในขณะที่ทางสโมสรได้ทำการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไป 33.6 ล้านปอนด์ คลิฟฟ์ บาตี้ ได้กล่าวว่า “ผลประกอบการในปี 2022 ของเราแสดงให้เห็นว่าเราได้ฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ รวมไปถึงการกลับมาของแฟนบอลอย่างเต็มรูปแบบและพันธมิตรทางการค้าที่ลงทุนเพิ่มขึ้นในทีม”

อาร์ตูร์ เมโล่ กองกลางรายใหม่ที่พึ่งย้ายมาร่วมทีมกับ ลิเวอร์พูล แบบยืมมตัวลงทุนจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวเพื่อมาเร่งความฟิตตัวเองเพื่อมัดใจ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีรายงานจาก TNT Sports Brasil ว่าตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมกับ หงส์แดง อาร์ตูร์ เมโล่ พึ่งได้ลงสนามไปแค่ครั้งเดียวและได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมเจอกับ นาโปลี เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่หงส์แดงมองว่า อาร์ตูร์ ยังมีความฟิตไม่พอตามที่ คล็อปป์ ต้องการ ดังนั้นในช่วงพักเบรกทีมชาติทำให้นักเตทุ่มเทหาวิธีเพื่อให้ตัวเองฟิตได้เร็วขึ้นโดยการ ฝึกเพิ่มเป็น 2 เท่า เพิ่มเวลาในยิมและสามารถแข่งเกมกับพลังหนุ่มได้มากกว่า 1 ชั่วโมงในระดับ U-21 ในรายการฟุตบอล ลีก โทรฟี่ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า อาร์ตูร์ ยังลงทุนเจียดเงินส่วนตัวเพื่อจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวอย่าง นักโภชนาการ โยอันน่า เพสโซน่า เดลโลโร่ รวมไปถึงโค้ชฟิตเนส แดเนียล เอสเตบาน ลาบาร์กา เอ็นกีน่า และ นักกายภาพ อาเดรียน มาร์ตีเนซ มาดูแลเป็นการส่วนตัวเพื่อเร่งฟิต และเป้าหมายของนักเตะคืออยู่ในกลุ่มใช้งานประจำให้ได้ 

จอห์น เมอร์เท่อห์ ผู้อำนวยการกีฬาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเผยว่าสโมสรพร้อมที่จะสนับสนุน เอริก เทน ฮาก อย่างเต็มที่แต่การเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวคงไม่ทุ่มเท่าหน้าร้อนที่ผ่านมา ในตลาดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ปีศาจแดง เป็นหนึ่งในทีมที่ทุ่มเงินเป็นจำนวนมหาศาลในการเสริมทัพถึง 210 ล้านปอนด์ หลังจากที่ได้ทำการคว้าตัว คริสเตียน เอริคเซ่น , ลิซานโดร มาร์ติเนซ ,  กาเซมีโร่ ,  ไทเรลล์ มาลาเซีย , มาร์ติน ดูบลาฟก้า และ อันโตนี่ มาร่วมทีม ส่วนในอนาคต เมอร์เท่อห์ ได้เผยว่า “ในภาพรวมของแผนงานในการเสริมทัพครั้งหน้าเราได้พิจารณาไว้ว่าจะไม่ทำเหมือนเดิมกับช่วงตลาดซัมเมอร์ในหน้าหนาว(ตลาดเดือนมกราคม)” “ซึ่งแผนงานของเราจะยังคงโฟกัสไปที่ตลาดซัมเมอร์เหมือนที่ผ่านมา” อย่างไรก็ตาม เมอร์เท่อห์ ได้ยืนยันว่า “ทางเราจะยังคง สนับสนุน เอริก เทน ฮาก เหมือนเดิมต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะหาผู้เล่นได้อย่างมีคุณภาพและมีคาแรกเตอร์ที่ดีพอในการพาทีมประสบความสำเร็จ”

อีวาน โทนีย์ กองหน้าของ เบรนท์ฟอร์ด ได้ออกมาเผยความในใจที่ตัวเองติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก รู้ดีว่าตัวเองต้องมีวันนี้จนได้ ในฤดูกาลนี้ อีวาน โทนีย์ สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ได้รับโอกาสในการติดทีมชาติเป็นครั้งแรกจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่จะทำการลงเล่นใน  ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก โทนีย์ ออกมาเปิดใจต่อสื่อว่า “มันเหมือนฝันมากๆ กับการได้มานั่งในทีมชาติอังกฤษตรงนี้ ผมและครอบครัวรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก รวมถึงสโมสรด้วย” “ผมคิดว่าไม่มีใครใน เบรนท์ฟอร์ด ถูกเรียกติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 1939 ดังนั้นผมคิดว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และผมก็ดีใจมากๆ” เมื่อมีคำถามถึงเรื่อง เคยคิดมาก่อนหรือไม่ว่าจะติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ โทนีย์ ตอบว่า “ไม่ได้คิดเลยเพราะผมมีความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มที่” “เมื่อก่อนตอนที่ผมถูกยืมตัวไปเล่นในที่ต่างๆผมคิดอยู่เสมอว่าจะได้เป็นนักเตะในพรีเมียร์ลีกแน่นอนในสักวัน” “และตอนนี้ผมก็ทำได้เพราะผมเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกและในทีมชาติอังกฤษ ผมเชื่อในตัวผมเองและความสามารถที่ผมมี”